วิธีเลือกกีต้าร์ไฟฟ้า มือใหม่ต้องดูอะไรบ้าง
เริ่มต้นกับทรงของกีต้าร์ไฟฟ้า มือใหม่หลายคน เริ่มต้นด้วยรูปทรงที่ตัวเองชอบโดยเฉพาะน้องๆวัยรุ่น อาจจะชอบทรงที่ไม่คุ้นตานัก เพราะรู้สึกว่ามันเท่และเวลาถือจะดูดี แต่มือใหม่หลายคนไม่รู้ว่ากีต้าร์ทรงแปลกๆเหล่านั้นถือและเล่นยากมากและทำให้เล่นได้ลำบากสำหรับมือใหม่ เพราะฉะนั้นทรงที่แปลกๆเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับมือใหม่ซักทีเดียว วันนี้จะมาแนะนำกันว่ากีต้าร์ไฟฟ้าที่เป็นทรงมาตราฐานและเหมาะกับมือใหม่มีทรงอะไรบ้างและทรงที่ยังไม่ควรจะซื้อเป็นกีต้าร์ตัวแรกสำหรับผู้เริ่มต้น
Topic สำคัญของการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า เลือกอ่านได้
1. ทรงกีต้าร์ไฟฟ้า ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ จากยี่ห้อต่าง ๆ
ทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นควรจะเป็นทรงมาตราฐานที่ถูกออกแบบมาเหมาะกับสรีระของผู้เล่นกีต้าร์เพราะเวลาเล่นจะทำให้หยิบจับถนัดมือ ไม่ตกหรือหล่นเวลานั่งเล่น ยกตัวอย่างเช่นทรง Stratocaster หรือ Telecaster ของยี่ห้อ Fender เป็นต้น หรืออาจจะเป็น Les Paul หรือ SG ของ Gibson ซึ่งกีต้าร์เหล่านี้ถือเป็นทรงที่เป็นมาตราฐานที่เวลาเล่นถือว่าเล่นได้ง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น อาจจะมีทรงกีต้าร์ของยี่ห้ออื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Ibanez Music Man หรือ PRS ที่ถูกออกแบบมาในรูปร่างที่ใกล้เคียงกันซึ่งเหมาะกับผู้เริ่มต้น โดยสามารถอิงจากทรงของทาง Fender หรือ Gibson ได้
ตัวอย่าง : ทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับมือใหม่จากยี่ห้อต่าง ๆ
ทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ควรหลีกเลียงสำหรับมือใหม่ จะเป็นทรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงาม ดูดี แต่สำหรับมือใหม่แล้วการถือกีต้าร์ทรงเหล่านี้ทำให้เล่นได้ยาก ต้องมีการปรับตัวหรือวิธีการจับเพื่อให้เหมาะกับกีต้าร์อาจจะทำให้ผู้เริ่มต้นมีความยากลำบากในการเล่นกีต้าร์ทรงเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทรง Explorer Flying V Firebird ของทาง Gibson หรือ Jaguar Jazzmaster Mustang จากทาง Fender ทรงกีต้าร์เหล่านี้สำหรับมือใหม่ควรจะได้ทดลองเล่นก่อนว่าเล่นได้ถนัด เพราะทรงเหล่านี้เล่นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่
ตัวอย่าง : ทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยง
ทรงกีต้าร์เหล่านี้ทั้งที่เหมาะกับมือใหม่และทรงที่ควรหลีกเลี่ยงของมือใหม่นั้นอาจจะมีให้พบเห็นในหลายๆยี่ห้อไม่จำเป็นต้องเป็นของยี่ห้อนั้น ๆ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มออกแบบทรงเหล่านั้นก็ได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อกีต้าร์จากรูปทรงที่ชอบเราควรทดลองเล่นมันก่อนว่าถนัดมั้ย เพราะสำหรับมือใหม่การกีต้าร์สวยอาจจะทำให้เล่นได้ไม่ถนัดนัก ทำให้มีความลำบากในการฝึกซ้อม
2. สะพานสาย หรือ Bridge
ที่จะมาแนะนำว่าต้องดูก่อนซื้อและเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ อีกอย่างนึงสำหรับมือใหม่เพราะถ้าซื้อมาผิดแล้วจะทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้นมากเลยทีเดียว นั้นก็คือส่วนของสะพานสาย หรือ Bridge เป็นส่วนที่อยู่ท้ายของบนตัวกีต้าร์ไฟฟ้า ใช้สำหรับในการพาดสายเพื่อขึงสายลงบนตัวกีต้าร์ ในส่วนนี้จะมีผลอย่างมากถ้าเราซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าที่มี Bridge ที่มีฟังชั่นเกินความจำเป็นสำหรับมือใหม่ โดย Bridge นั้นจะมี 3 ชนิดหลักๆ นั้นก็คือ
- Fixed Bridge
- Tremolo Bridge
- Floyd Rose Bridge
สะพานสายทั้ง 3 ชนิดถูกออกแบบไว้ให้ขึงสายก็จริงแต่ทั้ง 3 แบบ มีฟังชั่นที่ต่างกัน นั้นก็คือ สปริง ที่อยู่ด้านหลังกีต้าร์ซึ่งจะมีในรุ่นของ Tremolo Bridge และ Floyd Rose Bridge ตัวสปริงนี้มีผลกับสายกีต้าร์โดยตรงเพราะจะเป็นตัวทำให้สายกีต้าร์ตึงหรือหย่อนด้วย จริงๆแล้วสะพานสายทั้งสองแบบนี้นั้น จะทำให้ผู้เล่นสามารถใช้คันโยกซึ่งถือเป็นเทคนิคการเล่นแบบนึงของกีต้าร์ไฟฟ้าแต่สำหรับมือใหม่แล้วยังไม่มีความจำเป็นซักเท่าไหร่เพราะเทคนิคการใช้คันโยกนั้นหาได้ค่อนข้างยากสำหรับเพลงทั่วๆไป ที่นำมาเล่นกัน
ดังนั้นการใช้สะพานสายที่มีสปริงอาจจะไม่จำเป็นสำหรับมือใหม่เพราะสปริงเหล่านี้อาจจะทำให้สายที่ตั้งมานั้นเพี้ยนได้ในกรณีหากสายขาด นอกจากนั้นหากผู้เล่นนั้นยังไม่สามารถตั้งสายหรือตั้งสปริงที่อยู่ด้านหลังกีต้าร์เองได้ สะพานสายแบบ Tremolo Bridge และ Floyd Rose จึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนเพราะมีความยุ่งยากและทำให้ผู้เล่นใหม่อาจจะประสบปัญหาอื่นๆ อีก เช่น การเปลี่ยนสายกีต้าร์ที่ยุ่งยากและวุ่นวายกว่า
ตัวอย่าง : Bridge แบบต่างๆ ไล่จาก Floyd Rose/Fixed Bridge/Tremolo Bridge
3. Pick up หรือ ส่วนรับเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้า
ที่มือใหม่ควรจะต้องดูก่อนซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า ก็ คือ Pick up หรือส่วนรับเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้านั้นเอง ซึ่งจะอยู่บนตัวกีต้าร์ไฟฟ้า รวมถึงระบบไฟฟ้าด้วยซึ่งจะมีผลกับเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้า โดย Pick Up จะมีสองชนิดหลักๆ เรียกว่า Single Coil และ Humbuckers ซึ่งทั้งสองแบบจะให้เสียงต่างกัน โดยในแบบ Single Coil นั้นจะให้เสียงที่บางกว่า และแน่นอนว่า Humbuckers ให้เสียงที่หนากว่า จากชนิดของ Pick Up ทั้งสองแบบสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่สามารถเลือกได้ตามความชอบเลย ว่าชอบเสียงในรูปแบบไหน แต่สิ่งที่ควรจะระวังมากๆ ก็คือ Pick Up ที่ต้องใช้ถ่าน หรือเรียกอีกอย่างว่า Active Pick Up เพราะ Pick Up ชนิดนี้นั้นจะสามารถเร่งความดัง หรือ ย่านเสียงขึ้นมาได้ซึ่งสำหรับมือใหม่แล้วยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ Pick Up ชนิดนี้
เพราะใช้งานง่ายกว่า ไม่ต้องคอยเปลี่ยนถ่านและให้เสียงที่ดีมากพอสำหรับการเล่นเพลงทั่ว ๆไป โดยปกติแล้ว Pick Up แบบ Active มักจะมาในรูปแบบของHumbuckers เพราะฉะนั้นควรจะต้องเช็คว่า Pick Up แบบ Humbucker นั้นเป็นแบบ Active หรือไม่ อาจจะสามารถถามจากร้านค้าง่ายๆได้ว่าต้องกีต้าร์รุ่นที่อยากได้ต้องใส่ถ่านมั้ย ซึ่งก็อยากจะแนะนำมือใหม่ว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กีต้าร์ที่ใส่ถ่านสำหรับหัดเล่น
ตัวอย่าง : Pick Up ทั้งสองแบบ Humbuckers (Double Coils) และ Single Coil
4. ส่วนหัวของกีต้าร์ไฟฟ้า
ที่ต้องดูที่ส่วนหัวของกีต้าร์นั้นก็คือ ลูกบิดที่ใช้สำหรับตั้งสายหรือใส่สายกีต้าร์นั้นเอง โดยในส่วนของลูกบิดนั้น จะมี 2 ชนิดหลักๆ นั้นก็คือ
- ลูกบิดแบบปกติ
- ลูกบิดแบบล็อคสาย
ซึ่งสำหรับมือใหม่สามารถเลือกใช้แบบไหนก็ได้เพราะอาจจะไม่มีผลอะไรมากนักกับการฝึกเล่น แต่จะมีผลกับการตั้งสายและเสียงที่อาจจะมีโอกาสเพี้ยนนั้นเอง ลูกบิดที่แนะนำก็คือลูกบิดแบบล็อคสายเพราะการใส่สายบนลูกบิดแบบล็อคสายนั้น มีโอกาสที่เสียงจะเพี้ยนได้น้อยกว่าลูกบิดแบบปกติซึ่งสายจะมีโอกาสเพี้ยนสูงกว่า ดังนั้นถ้าสามารถเลือกได้ว่าลูกบิดจะเป็นแบบไหนควรเลือกแบบล็อคสายนั้นเอง
ตัวอย่าง : ลูกบิดสายทั้งสองแบบ โดยลูกบิดล็อคสายจะมีหมุดไว้ให้หมุนอยู่ตรงกลางใช้เพื่อล็อคสาย
สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหา วิธีการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยผู้เริ่มต้นเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า ที่กำลังมองหากีต้าร์คู่ใจตัวแรกอยู่ โดยสิ่งที่ Big Bro Music อยากให้คำนึงถึงมาก ๆ ในการเลือกซื้อนั้นก็คือ ส่วนของทรงกีต้าร์และสะพานสาย เพราะทั้งสองส่วนนี้จะส่งผลต่อผู้เล่นค่อนข้างมากดังนั้นควรจะพิจารณาให้ดีหากจะเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น